วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

ขืนทำ..................จะช้ำใจ (คำสอนดีๆที่ควรจำไว้)

ได้รับ Fwd เมล์ ของท่าน ว.วชิระเมธี หลายฉบับ  อันนี้ เป็นอีกอันนึงที่อยา่กจะเอามาลงเก็บไว้ มาแชร์ ให้คนอื่นๆได้ดูกันบ้าง ท่านมีหลักคำสอนที่ทันสมัย ทำให้คนรุ่นใหม่ เข้าใจได้ง่าย อ่านแล้วจำ จำแล้วนำไปใช้ 555
























สาธุ ~~~~~~~

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

คำคมๆ จาก CEO, DTAC

ได้ไปงานสัมนา CEO, CIO ระดับประเทศหลายๆท่าน มาพูดถึง องค์กรตัวเอง อธิบายภาพ การวางแผน

เรื่องระบบ IT ต่างๆ ทำให้เห็นว่า วิสัยทัศน์ ของผู้บริหารระดับสูง เค้าสุดยอดกันจริงๆแต่ละคน


คนนึงที่เราจับใจความได้และจดเอาไว้ คือ CEO ของ DTAC ที่เป็นคนไทยนะ

เค้าให้คำคมคำนึง ที่ชอบมากๆคือ

" You don't have to be the best.
  
  You don't have to be better, but you must be different.

  A little thing different make a big thing "Excellent". "


รู้สึกว่าเอาไปเป็นปรัชญา ชีวิตได้หลายด้านเลยทีเดียวแล้วแต่ใครจะไปประยุกต์ใช้

จำไว้ว่า ทุกคนย่อมมีความต่างของตัวเอง อยู่แล้วหามันให้เจอ แล้วเอามันออกมาใช้

ให้เป็นประโยชน์

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

ปราชญ์เศรษฐีคนที่ 2 ของ โลก "อ่านแล้วชอบมาก"..^^



คัดลอกจาก Fwd เมล์อีกที ต้องขอขอบคุณบุรุษนิรนามไว้ ณ  ที่นี้ 
   
“ ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา... 
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว 
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร 
แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ ” 
The point... 

  

อ่าน และส่งต่อมาแล้วหลายครั้ง แต่มาอ่านทวนทีไรก็ชอบใจทุกที 

ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก 
วอร์เรน บัพเฟตต์ ( Warren Buffet) 




มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศลถึง
 
31,000ล้านดอลล่าร์ 


เป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000,000,000,000 อ่านว่า ล้าน ล้านบาท โอ้แม่เจ้า) 


ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา : 


1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป! 

2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์ 

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม 

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน 

5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ 

7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ 
กฎข้อ อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย 
กฎข้อ อย่าลืมกฎข้อ 

8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์ 

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์ 

10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน 

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : 


ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง 


มหาเศรษฐีหรือยาจก 
กินข้าวแล้วก็อิ่ม มื้อ เท่ากัน 


มหาเศรษฐีหรือยาจก 
มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน 

มหาเศรษฐีหรือยาจก 
มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน 

มหาเศรษฐีหรือยาจก 
จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน


อยากปฏิบัติให้ได้แบบนี้ จัง พอเพียง เพียงพอ เหมือนที่พ่อหลวงสอนคนไทยทุกคน ^^